4.4 เหตุผลการใช้นิ้วปลอม


ถ้าถามว่า 5+5=? มีเด็กคนหนึ่งคิดตามที่คุณครูป.สอนว่าต้องเก็บเอา5 อยู่ในใจยกนิ้วขึ้นมา 5 นิ้วนับต่อไปได้ 10 ตอบ 10 เราคงขำเด็กคนนี้ แต่เด็กส่วนมากจะตอบ 10 ทันทีฉีกแนวที่คุณครูป. สอน ถ้าเกิดคุณครูป. บังคับเด็กว่า "จำไว้นะ ต้องเอาเลขเก็บไว้ในใจแล้วชูนิ้วมือมานับต่อทุกครั้ง"ก็คงเป็นเรื่องตลกมากๆ การที่เด็กตอบได้ไวเพราะเด็กมีความฉลาดเอาฐาน 5 เป็นหลักคิด แต่ถ้าถามว่า 5+6=? เด็กจะคิดตามที่คุณครูป.สอนอีก ทำไมไม่เอาฐาน5 เป็นหลักคิดบ้าง เช่น 5+6 =5+(5+1) = (5+5)+1 =11 ดังนั้นนิ้วปลอมจึงมีบทบาทจะให้เด็กฉลาดคิดที่เป็นรูปโดยไม่ต้องบอก

การคิดเลขในใจ ที่มีมโนภาพนิ้วมือเป็นรูปธรรมจะทำให้เด็กมีความมั่นใจสูงและรวดเร็ว ธรรมชาติมีระบบมีความฉลาดโดยสร้างนิ้วมือมนุษย์มาข้างละ 5 นิ้ว 2 มือคือ 10 นิ้ว เช่นเอาก้อนหิน 8 ลูกมาวางรวมกันให้นับทุกคนก็ต้องเริ่มนับ 1 ไปถึง 8 แต่ถ้านำมาวางเป็นแถวเป็นระบบเราก็ตอบได้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่ม 1 การชูมือโดยใช้นิ้วมือปลอมช่วย 8 นิ้วก็จะยกง่ายและอ่านง่ายเพราะเป็นระบบ การลบก็เช่นกัน ก็จะลบง่าย แล้วก็ลบในใจได้เช่นกัน

บวกด้วยนิ้วมือ

มีเด็ก 2คน มีเครื่องมือ 3 ชนิดคือ มีดบาง มีดอีโต้ มีดดาบ เด็กคนที่ 1 ใช้มีดบางปอกมะม่วง ใช้มีดบางตัดต้นไม้ ใช้มีดบางเป็นอาวุธป้องกันตัว ส่วนเด็กคนที่ 2 ใช้มีดบาง ปอกมะม่วง ใช้มีดอีโต้ ตัดต้นไม้ ใช้มีดดาบเป็นอาวุธป้องกันตัว เด็ก 2 คนนี้จะฉลาดต่างกัน คนที่ 2 จะฉลาดกว่าเพราะปฏิบัติงานได้ผลดีและไว เราจะขบขันที่เห็นเด็กคนที่ 1 ใช้มีดบาง ตัดต้นไม้กว่าจะเสร็จก็ต้องใช้เวลานาน ถ้ามีครูเร่งให้รีบตัดต้นไม้ให้เสร็จ เราจะสงสารเด็กที่ตั้งใจ ส่วนเด็กที่ไม่อดทนพอ แน่นอน เขาจะต้องโยนมีดทิ้งกลางครัน เราก็สงสารอีกเช่นกัน การสอนคณิตศาสตร์ ต้องสอนให้เด็กฉลาดเสมือนการใช้มีดได้เหมาะสมกับงาน แต่ทุกวันนี้ เราสอนให้เด็กใช้มีดบางอย่างเดียวที่จะปอกมะม่วง ตัดต้นไม้หรือเป็นอาวุธป้องกันตัว ข้าพเจ้าจึงมีวิธีคิดแปลกใหม่ที่เป็นระบบโดยใช้นิ้วปลอมช่วย

การบวกที่1 หน้ามือกับหน้ามือ เช่น 1+2 , 3+2, 4+4 ,...ถ้าเราถาม 3 +3 =? เป็นตัวเลขที่มีจำนวนน้อย เริ่มแรกเด็กจะใช้วิธีนับเรียง 1ไปถึง 6 แล้วก็ตอบ 6 แต่ถ้าฝึกบวกบ่อยๆ เด็กก็จะตอบปุ๊ปปั๊บได้เลยเพราะเป็นรูปธรรม

การบวกที่2 หลังมือกับหลังมือ เช่น 6+6 , 6+8, 9+9 ,...ถ้าเราถาม 6 +7 =? เป็นการบวกโดยเอาฐาน5ช่วย (5+1) +(5+2) ได้ 10+ 3 ตอบ13 ก็จะไว

การบวกที่3 หลังมือกับหน้ามือ เช่น 6+2 , 7+3, 8+4 ,...ถ้าเราถาม 8 +3 =? เป็นการบวกโดยเอาฐาน10ช่วยโดยการเติมเลขหลังมือที่ยก8 ให้ครบ10 คือ (8) +(2+1) ได้ 10+ 1 ตอบ11 ซึ่งก็คือวิธีนับต่อเหมือนกับที่ครูสอนทุกวันนี้

ถ้าข้าพเจ้าถามท่านว่า 9+5=? ผู้ใหญ่ทุกท่านก็รีบตอบ 14 โดยไม่ต้องยกมือช่วย ก็เพราะท่านจำ ตัวเลขได้ เด็กจะจำตัวเลขได้ก็จะต้องมีประสพการณ์พอๆ กับท่าน คณิตสอนคนให้ฉลาด บางครั้งต้องจำ บางครั้งต้องคิด บางครั้งใช้คิดจำผสมกัน เช่น 37 + 66 =? ท่านก็ต้องคิดและจำผสมกัน ข้าพเจ้าจึงแต่งเพลงบวกเลขไว้ในเรื่องเจ้าแกละแสนฉลาด ถ้าเด็กร้องเพลงได้ก็เท่ากับบวกเลขได้เร็วไปครึ่งทางแล้ว ในเนื้อเพลง 3 +3 ได้ 6 ถ้าเราถามเด็ก 3+2=? เด็กฉลาดจะถอยหลัง 6 เป็น 5 ตอบ 5 ถ้าถาม 3+4=? เด็กจะเพิ่ม 6 เป็น 7 ตอบ 7

ทุกวันนี้ครูสอนเด็กบวกเลข เช่น 6 +7 =? คุณครูป.บอกว่าให้เอา 7ไว้ในใจแล้วชูขึ้นมา 6 นิ้ว นับต่อ แล้วก็บังคับให้เด็กคิดในใจด้วย ลองนึกภาพเด็กที่ตอบ เหมือนกับเจ้าแกละในหนังการ์ตูน ต้องใช้สมาธิสูงมาก เพราะเป็นการนึกภาพนามธรรม แต่ถ้าใช้นิ้วปลอมจะนึกเป็นภาพรูปธรรม

จาก ธัญ เสรีรมย์